วันอาทิตย์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

10 อันดับ Blogger สอนเขียนโปรแกรม // 10 อันดับ Blogger ที่น่าสนใจ

10 อันดับ Blogger สอนเขียนโปรแกรม


1.คอร์ดรวมพื้นฐานการแฮค และ เทคนิคที่ใช้แฮค
:http://kiss-hack.blogspot.com/2014/12/pentesting-hacking-webapplication.html

2.กฏระเบียบในเว็บและเพจ (วงการด้วย)
:http://kiss-hack.blogspot.com/2013/09/blog-post.html

3.PHP เบื้องต้น (คุยกันก่อน)
:http://kiss-hack.blogspot.com/2013/08/php.html

4.อยากเป็น Hacker
:http://kiss-hack.blogspot.com/2013/08/hacker.html

5.มาพูดถึงเรื่องการ ยิงIP ด้วย Flood ต่างๆกัน
:http://kiss-hack.blogspot.com/2013/08/ip-flood.html

6.สอนเขียน Java ขั้นพื้นฐานพร้อมกับ E-BOOK
:http://xn--72c0ahm0b6dtbw6k.blogspot.com/2012/04/java-e-book.html

7.c/c++ robot simulator เรียนรู้การเขียนโปรแกรมควบคุมหุ่นยนต์
:http://krumonrobot.blogspot.com/

8.สร้างแบบฟอร์มลงทะเบียน แบบฟรี Form Free Google Drive
:http://kobover.blogspot.com/2014/03/form-free-google-drive.html

9.เขียนโปรแกรมโดยใช้วิชวลเบสิก 2008 (visual basic 2008)
:http://code-visual-basic.blogspot.com/

10.JAVA เบื้องต้น
:http://www.javathailand.com/ajax/app/index.php?r=frontend/viewByGroupVdoId&group_vdo_id=1

10 อันดับ Blogger ที่คิดว่าน่าสนใจ


อันดับ 1 Pearypie: Make-up Artist/Theatrical Artist : 473,953 likes เป็นใครไปไม่ได้เลยเพราะสาวแพรรี่พาย นอกจากจะมีฮาวทูการแต่งหน้าออกมาให้สาวๆได้อัพเดทกันอยู่เสมอ ยังมีทั้งแฟชั่นการแต่งกาย ที่บอกเลยว่ามาแรงแซงทางโค้งจริงๆ


อันดับ 2 แย้ นนทพร ธีระวัฒนสุข 387,207 like 
ด้วยความที่เป็นพริตตี้สาวมากความสามารถ จึงทำให้ยอดไลค์ของหญิงแย้ มาเป็นอันดับที่ 2 ทั้งแบ่งปันวิธีการดูแลตัวเอง ตั้งหัวจรดเท้า แถมยังเป็นผู้หญิงที่เป็นตัวของตัวเองสุดๆ ทำให้ใครหลายๆคนยกให้หญิงแย้ เป็นไอดอล



อันดับ 3 Sp Saypan 336,041 likes เป็นอีกหนึ่งสาวบิ้วตี้ บล็อกเกอร์ที่มาแรงอยู่ในตอนนี้ สายป่าน หรือใครๆหลายคนอาจจะรู้จักในนามของ ป่านศรี ด้วยความน่ารักและความจริงใจในการรีวิวผลิตภัณฑ์และเทคนิคในการดูแลตัวเองต่างๆ ทำให้สาวๆหลายคนเทใจให้สาว บิ้วตี้ บล็อกเกอร์คนนี้



อันดับ 4Momay Pa Plearn : 275,791 likes โมเม พาเพลิน สาวไทยต่างขนานนามให้เธอว่า " คุณแม่ " ด้านการแต่งหน้าตัวจริง โมเม พาเพลิน ถือว่าเป็นผู้ที่ทำให้สาวๆหลายคนที่คิดจะเริ่มฝึกแต่งหน้า คิดถึงเธอเป็นคนแรก 


อันดับ 5 FEONALITA : 182,713 likes 
ทราย ฟีโอนาลิต้า บิ้วตี้ บล็อกเกอร์ที่ใครหลายคนคงจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี สาวร่างเล็กคนดังประจำโต๊ะเครื่องแป้งพันทิป เธอมีทั้งเคล็ดลับการดูแลเสื้อผ้าหน้าผม รวมถึงการรีวิวผลิตภัณฑ์ความงามอีกมากมาย


อันดับ 6 Kunginter : 113,099 likes กุ้ง อินเตอร์ เป็นบิ้วตี้ บล็อกเกอร์อีกคนหนึ่งที่มีวิธีการดูแลตัวเองแบ่งปันให้ชาวแฟนเพจเสมอ ทั้งการดูแลผิวหน้า ผิวกาย รีวิวผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย จึงทำให้แฟนเพจส่วนใหญ่มีทั้งผู้หญิงและผู้ชาย


อันดับ 7 I'm Mayyr - Blog : 78,395 like 
เป็นสาวน้อยน่ารักอีกคนหนึ่ง ที่กลายเป็นที่รู้จักของสาวๆส่วนใหญ่เพราะการแต่งหน้า ทั้งการรีวิวเครื่องสำอางและของใช้คุณภาพดี บวกกับหน้าตาที่น่ารักจิ้มลิ้มทำให้แฟนเพจของคุณเมย์เป็นผู้ชายไม่น้อยเลยทีเดียว


อันดับ 8 Cinnamongal.com 77,810 likes 
คุณมด บิ้วตี้ บล็อกเกอร์อีกหนึ่งคนที่สาวๆคงจะรู้จักกันเป็นอย่างดี เธอเปิดร้านขนมและยังเป็นที่รู้จักในวงการบิ้วตี้ บล็อกเกอร์ ที่มากความสามารถจริงๆ


อันดับ 9 OnnBaby : 21,729 likes บล็อกเกอร์สาวสุดชิค กลายเป็นที่รู้จักของสาวๆจากการแบ่งปันเคล็ดลับและเทคนิคดีๆในการดูแลตัวเอง และยังเปิดตัวแบรนด์เครื่องสำอางที่แพคเกจแสนจะน่ารักกุ๊กกิ๊ก


อันดับ 10 Jelly Fish Makeup Mania : 19,022 likes ปิดท้ายด้วยสาวสวยคนนี้ คุณจูน ที่มีทั้งฮาวทูการแต่งหน้าและยังแบ่งปันเทคนิคในการทำทรงผมต่างๆมากมาย สาวๆหลายคนจึงไม่รีรอที่จะกดติดตามเธอเพื่ออัพเดททริคในการดูแลตัวเองอย่างรอบด้าน

วันศุกร์ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

เกม E-Sport ระดับโลกที่มีมูลค่ากับตลาดไทยเกือบ 100 ล้านบาท

E-Sport….ในไทย
          ถ้าจะให้พูดถึงต้นกำเนิดของวงการ E-Sport ในบ้านเรา ก็คงต้องย้อนกลับไปเมื่อปี 2543 ในปีนั้นมีการจัดแข่งขัน E-Sport รายการแรกของเมืองไทยเกิดขึ้น มาจนถึงวันนี้ก็นับเวลาได้ 12 ปีเต็มๆ ที่ประเทศไทยรู้จักมักคุ้นกับคำว่า E-Sport คำถามคือ ณ วันนี้เราพูดได้เต็มที่แล้วหรือยังว่า E-Sport บ้านเราบูมแล้ว?
อดีตที่ขมขืนของนักกีฬา E-Sport เมืองไทย

          ถึงแม้ว่า E-Sport บ้านเราจะเริ่มเป็นที่รู้จักกันเมื่อ 12 ปีก่อน มีการส่งนักกีฬาเข้าร่วมแข่งขันรายการระดับโลก ในปี 2544 แต่เมื่อเทียบกับต่างประเทศ นักกีฬาบ้านเราก็จัดอยู่ในระดับมือสมัครเล่นเท่านั้น ที่ผ่านมาถึงแม้ว่านักกีฬาจะพยายามผลักดันยังไงก็ยังห่างไกลจากคำว่า “นักกีฬามืออาชีพ” เหมือนอย่างที่ประเทศเกาหลีใต้ประสบความสำเร็จ
          สาเหตุก็เพราะ นักกีฬาบ้านเราขาดการสนับสนุนอย่างจริงจังจากเหล่าสปอนเซอร์ ซึ่งก็ไม่พ้นบริษัท IT ทั้งหลายที่ถูกมองว่าเป็นแหล่งสปอนเซอร์หลัก แต่ที่ผ่านมาสิ่งที่นักกีฬาได้รับการสนับสนุนก็มีเพียงแค่อุปกรณ์ไม่กี่ชิ้นเท่านั้น ซึ่งมันเป็นเหมือนการช่วยเหลือกัน มากกว่าที่จะเรียกได้อย่างเต็มปากว่า “สปอนเซอร์”
          ที่สำคัญรายการแข่งที่จะแสดงฝีมือก็มีน้อยเกินกว่าที่จะต่อรองขอการสนับสนุนที่มากกว่านี้ ดังนั้นนักกีฬ่า E-Sport บ้านเราจึงต้องใช้ “ใจ” เป็นอย่างมาก ในการที่จะเป็น “นักกีฬา E-Sport”
          จึงไม่แปลกเลยที่ท้ายที่สุด แต่ละคน แต่ละทีม จะต้องควักเงินส่วนตัวเพื่อผลักดันตัวเองให้อยู่ในวงการ จนเมื่อมองจากมุมกว้าง นักกีฬา E-Sport บ้านเราจึงมีอยู่แค่หยิบมือเดียวและถูกจำกัดให้อยู่ในระดับแค่มือสมัครเล่น
ตัวแปรที่เข้ามาเปลี่ยนวงการ
          จนเมื่อปี 2551 ได้เกิด Event การแข่งขันหนึ่ง ที่เข้ามาเปลี่ยนมุมมองของเหล่าบริษัท IT ให้ตื่นตัวกับวงการ E-Spot มากขึ้น นั่นก็คือรายการ ESTC 2008 ตัวแปรสำคัญที่ทำให้รายการนี้ได้รับความสนใจ คือการเชิญนักกีฬา E-Sport จากต่างประเทศเข้ามาแข่งขันในประเทศไทย 
          แน่นอนว่าเมื่อประเทศไทยได้มีโอกาศต้อนรับนักกีฬาที่มีฝีมือระดับโลก ทำให้เกิดกระแสการตื่นตัวทั้งนักกีฬ่าและบริษัท IT จนนำมาสู่การเริ่มมีทีมที่ได้รับการสนับสนุนอย่างเป็นทางการ จากเหล่าสปอนเซอร์ที่เล็งเห็นฝีมือและความสำคัญของนักกีฬา E-Sport ของประเทศไทย
          การจัด ESTC 2009 ยิ่งเป็นการตอกย้ำอีกครั้ง ว่าแท้จริงแล้วศักยภาพของนักกีฬาไทย มีความพร้อมที่จะยกระดับเข้าสู่นักกีฬามืออาชีพ และเมื่อมีรายการใหญ่ได้ให้พิสูจน์ฝีมือ เหล่าบริษัท IT จึงพุ่งเป้าสนใจวงการ E-Sport มากขึ้นเป็นเท่าทวี สิ่งทีเกิดขึ้นจึงเป็นเหมือนสัญญาณที่เราทุกคนสามารถรับรู้ได้ว่า ยุคทองของ E-Sport เมืองไทยกำลังจะมาถึงแล้ว 
 สิ่งที่กำลังเป็นอยู่ของวงการ E-Sport เมืองไทย
          คงปฏิเสธไมได้ว่า ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา วงการ E-Sport บ้านเรากำลังอยู่ในช่วงขาขึ้นอย่างแท้จริง ซึ่งเป็นภาพที่เราอยากให้เกิดขึ้นมานานแล้ว เนื่องจากบริษัท IT หลายราย เริ่มที่จะจริงจังกับการผลักดันวงการนี้มากขึ้น เมื่อนักกีฬาได้รับการสนับสนุนมากขึ้น แน่นอนว่านักกีฬาเองก็ต้องแสดงความเป็นมืออาชีพมากขึ้น รวมไปถึงผลงานทั้งในเวทีระดับประเทศหรือระดับนานาชาติ
          ในเรื่องของฝีมือ นักกีฬ่าไทยพิสูจน์ให้เห็นกันแล้วว่า หากจะวัดกันจริงๆ นักกีฬาไทยก็สามารถคว้าแชมป์โลกได้ไม่ใช่เรื่องฝัน ซึ่งที่ผ่านมาเราก็ทำให้เห็นมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเกม Ragnarok, GetAmped, Point Blank ส่วนเกมอื่น ในระดับซีเกมส์เราก็ไม่เป็นรองใคร เช่น DotA, SF, StarCraft II แต่ถ้าในระดับเอเชียนเกมส์ก็คงต้องสู้กันต่อไป 
          ยิ่งตอนนี้ทางบริษัท IT ได้รวมตัวกันจัดรายการแข่งขันขึ้นมา เพื่อผลักดันวงการนี้มากขึ้น ยิ่งทำให้นักกีฬาไทยมีเวทีในเพื่อฝึกฝีมือ ยิ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ในอนาคตประเทศไทยอาจมีกองทัพนักกีฬ่า E-Sport มากพอที่จะขอเขย่าบัลลังก์วงการ E-Sport ในระดับโลกก็เป็นได้
          แต่ทุกสิ่งทุกอย่าง ตอนนี้คงขึ้นอยู่กับสิ่งที่นักกีฬา E-Sport เองแล้วละครับ ว่าจะแสดงออกมาให้ทุกคนได้เห็นถึงความเป็นมืออาชีพ ระเบียบวินัยในการฝึกซ้อม น้ำใจนักกีฬา ได้มากน้อยขนาดไหน วงการนี้จะโตขึ้นหรือวูบดับไป นักกีฬาคือคนกำหนดทิศทางทั้งสิ้น
          ทุกสิ่งทุกอย่างมาได้ถูกทาง อย่างที่เราอยากเห็นแล้ว อนาคตเราไม่สามารถบอกได้ว่ามันจะเป็นยังไง แต่สิ่งที่เราทำได้คือ ปัจจุบันเราทำมันยังไงต่างหาก คงไม่มีใครอยากเห็นเหล่าสปอนเซอร์ถอดใจ เพราะนั้นมันจะหมายถึงหายนะของวงการ E-Sport บ้านเราอีกครั้ง 
          ไม่ว่าเราจะมองว่า “E-Sport ผลักดันวงการ IT” หรือ “วงการ IT ผลักดัน E-Sport” เราคงไม่สามารถแยกได้ว่าอย่างไหนมันสำคัญกว่ากัน เพราะท้ายที่สุดทั้ง 2 อย่างจะต้องควบคู่ไปด้วยกัน
          หากจะมองว่าวงการ E-Sport บูมหรือไม่ ผมบอกได้เลยว่า เรากำลังบูมสุดๆ แต่ถึงจุดสูงสุดหรือยัง ตอบได้เลยว่ายังอีกไกล ยังมีงานอีกหลายอย่างที่เราต้องทำเพื่อไปให้ถึงจุดๆ นั้นครับ 
          “ไต้หวันเพิ่งเริ่ม Professional League เมื่อ 2 ปีที่แล้ว มาตอนนี้เขาจะมีทีมเอง เขามีเงินเดือน เขาให้ที่พัก คือเขาจะซ้อมทุกวันเพื่อที่แข่งขันทุกเสาร์-อาทิตย์”
           “ต่อไปเราต้องการให้ทุกคนมองว่า เล่นเกมก็เป็นอาชีพได้ การเล่นเกมสมัยนี้ไม่เหมือนเมื่อก่อน ต่อไปเราอยากให้นักกีฬา E-Sport ไทยมีเงินเดือน มีเงินสนับสนุน เพื่อที่จะให้เขามีโอกาสฝึกซ้อมและไปแข่งกับทีมต่างประเทศ”
          “เมื่อก่อนมีแต่การแข่งลีก ไม่มีสปอนเซอร์ พอทีมไม่มีสปอนเซอร์แล้วพอแพ้บ่อยๆ เขาก็หมดกำลังใจไม่อยากแข่งต่อ จะทำให้ลีกพังตลอดเวลา เพราะฉะนั้นในครั้งนี้ที่ทาง Gigabyte ออกไอเดียมา นั่นก็คือให้เพื่อนๆ ในกลุ่ม IT มาช่วยกัน อยู่ข้างหลังคอยซัพพอร์ตอยู่ โดยที่ทุกคนห้ามถอยภายในปีนี้”
          “แต่ว่า GIGABYTE ก็มีการคุยกับบริษัท ไทยอีสปอร์ต จำกัด ในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้อาจจะมีการจัดลีกล่าง คือส่งเสริมทีมใหม่ๆ เพื่อเป็นช่องทางให้บริษัทใหม่ๆ ที่กำลังอาจจะสนใจสนับสนุนทีม E-Sports เข้ามาดูและเลือกทีมจากลีกนี้ไปพัฒนาศักยภาพต่อเป็นทีมที่แข็งแกร่งได้”
          “ที่วางแผนไว้จะในปีนี้แน่ๆ ก็จะแข่ง DotA กันทั้งปี 12 เดือนเลย แต่ในช่วงต่อๆ ไปก็จะมีการเพิ่มการแข่งขันให้มากขึ้นเรื่อยๆ อย่าง Season 1 เรามีแต่การแข่งออนไลน์ ใน Season 2 ทาง GIGABYTE จะมีการแข่งออฟไลน์ที่จะรวมทีมอันดับ 1-4 มาแข่งอีกครั้ง เหตุผลที่ต้องมีการแข่งบ่อยๆ เพื่อที่ทางบริษัท ไทยอีสปอร์ต จำกัด จะได้สามารถหาผู้สนับสนุนรายอื่นๆ เข้ามาเพิ่มเติมเรื่อยๆ จนทำให้การแข่งขันใหญ่ขึ้นไปเรื่อยๆ ได้ สุดท้ายคนเล่นเกมจะกลายเป็นมืออาชีพได้”

มาในที่นี้ผมต้องยกย่องเกมที่กำลังมาแรงในตอนนี้เลยคือเกม Dota2 ที่แข่งขันกันชนะได้ไปเลย 160 ล้านบาท

จบลงแล้วกับรายการแข่งขัน The International DOTA 2 Championships ประจำปี 2014 ซึ่งเป็นรายการแข่งขันกีฬา eSports ที่มีเงินรางวัลสูงสุดที่โลก และในปีนี้ยังเป็นปีที่มียอดเงินรางวัลสนับสนุนเข้ามามากที่สุดด้วยถึงกว่า 7 ล้าน US Dollar ซึ่งการแข่งขันได้ดำเนินกันยาวนานกว่าหนึ่งสัปดาห์ และในที่สุดก็ได้คู่ชิงชนะเลิศที่เป็นการพบกันเองระหว่างสองทีมจากประเทศจีนคือ ทีม Newbee และทีม ViCi Gaming (VG) ซึ่งสามารถชมคลิปการแข่งขันได้ด้านล่าง
กติกาการแข่งขัน การแข่งขันรอบชิงจะแข่งกันทั้งหมด 5 เกม โดยผู้ชนะ 3 ครั้งก่อนจะเป็นทีมชนะเลิศ ซึ่งการแข่งขันเกมแรก ViCi สามารถเอาชนะไปได้ก่อน แต่ Newbee สามารถเอาชนะได้ในอีก 3 เกมถัดมา จึงเป็นทีมชนะเลิศ คว้าเงินรางวัลจากรายการไปถึง 5,000,000 US Dollar คิดเป็นเงินไทยก็คือประมาณ 160 ล้านบาท ส่วนทีม ViCi แม้จะได้รองชนะเลิศ แต่ก็ได้เงินรางวัลไปไม่น้อยถึง 1,475,699 US Dollar เป็นเงินไทยประมาณเกือบ 50 ล้านบาท นับเป็นปีทองของทีมแข่ง Dota 2 จากจีนจริงๆ เพราะสามารถเอาชนะทีมเก่งๆจากทางยุโรปจนขึ้นชิงกันเองได้

The International DOTA 2 Championships

โฉมหน้าผู้เข้าแข่งขันทั้งสองทีม
The International DOTA 2 Championships
The International DOTA 2 Championships
แหล่งที่มา

วันพุธที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

Adobe Photoshop CS6 [Full] ตัวเต็มไม่ต้อง CRACK [ ONE2UP ] [ 32bit / 64bit ]


Adobe Photoshop CS6 Extended 
โปรแกรมตกแต่งรูปคุณภาพจาก Adobe ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นโปรแกรมตกแต่งรูปภาพที่ดีที่สุดในโลก 
มีผู้ใช้งานมากที่สุดในโลก ไม่ว่าจะเป็นผู้ใช้ทั่วไป ตามร้านต่างๆ หรือตามองค์กรต่างๆ
เป็นโปรแกรมที่มีความสามารถในการออกแบบกราฟิก เพื่อนำไปใช้ร่วมกับงานในด้านต่าง ๆ เช่น งานกราฟิกที่เกี่ยวกับสื่อสิ่งพิมพ์ทุกประเภท 
งานกราฟิกบนเว็บไซต์และการตกแต่งภาพถ่ายจากกล้องดิจิตอล ซึ่งอาจกล่าวได้ว่าเป็นโปรแกรมที่มีผู้นิยมนำมาใช้ในการออกแบบและตกแต่งภาพถ่ายกันมากที่สุด


Photoshop CS6 with Carck full free download

Photoshop CS6 with Carck full free download 2
Photoshop CS6 with Carck full free download

Photoshop CS6 with Carck full free download
Photoshop CS6 with Carck full free download
Photoshop CS6 with Carck full free download

Download 1 PAST FULL




วันอังคารที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

รวมทุกอย่างของ Edward Snowden


                                           ประวัติของ Edward Snowden

Edward Snowden-2.jpg



นายเอ็ดเวิร์ด โจเซฟ สโนว์เดน อดีตเจ้าหน้าที่ซีไอเอ ผู้กำลังเป็นที่จับตามองจากคนทั่วโลก เกิดเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2526 ในเมืองอลิซาเบธ มลรัฐเซาธ์แคโรไลนา ประเทศสหรัฐอเมริกา ปัจจุบันอายุ 29 ปี เป็นลูกของเจ้าหน้าที่ยามฝั่งสหรัฐฯ กับเสมียนศาลในมลรัฐแมริแลนด์ มีพี่สาว 1 คน ซึ่งมีอาชีพเป็นทนายความ

ประวัติการเรียน : เมื่ออายุได้ 16 ปี สโนว์เดนย้ายไปอยู่ที่เมืองเอลลิคอตต์ มลรัฐแมริแลนด์พร้อมกับครอบครัว และเข้าเรียนสาขาคอมพิวเตอร์ ที่วิทยาลัยแอนน์ อรันเดล คอมมิวนิตี คอลเลจ และตั้งใจเรียนต่ออนุปริญญา แต่ไม่สำเร็จ จากนั้น เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2547 เมื่ออายุได้ 21 ปี เขาเข้ารับใช้กองทัพสหรัฐฯ ด้วยความหวังว่าจะได้เป็นหน่วยรบพิเศษ ที่ไปรบในอิรัก เพื่อช่วยปลดปล่อยประชาชนจากการถูกกดขี่ แต่ระหว่างการฝึกได้เพียง 4 เดือน เขาได้รับอุบัติเหตุขาหักทั้งสองข้าง จึงถูกปลดจากกองทัพ

ประวัติการทำงาน :  หลังจากถูกปลดจากกองทัพชีวิตพลิกผันไปเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย สังกัดสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ หรือ NSA ประจำมหาวิทยาลัยแมริแลนด์ ก่อนเข้าร่วมงานกับซีไอเอ ในตำแหน่งรักษาความปลอดภัยด้านไอที จากนั้น อีก 3 ปีต่อมา เขาถูกย้ายไปประจำที่นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ในตำแหน่งเดิม ก่อนลาออกในปี 2552 เพื่อไปทำงานกับบริษัทเดลล์ และบูซ อัลเลน แฮมิลตัน บริษัทเหล่านี้เป็นบริษัทนอก ที่รัฐบาลสหรัฐฯว่าจ้างให้ไปทำงานด้านไอที  ให้กับหน่วยซีไอเอ ภายใต้การบังคับบัญชาของ NSA เขาทำงานให้กับเดลล์หลายปี ก่อนจะย้ายไปอยู่ที่บูธ อัลเลน แฮมิลตัน ซึ่งมีสำนักงานอยู่ที่มลรัฐฮาวาย เขามีบ้านอยู่ที่นั่น และใช้ชีวิตอยู่กับ ลินด์เซย์ มิลส์ แฟนสาวของเขา ซึ่งเป็นนักเต้นรูดเสา ที่คบหากันมา 4-5 ปี 

ประวัติการแฉ : 

1.แฉการดักฟังโทรศัพท์ของสหรัฐ

อดีตเจ้าหน้าที่ฝ่ายคอมพิวเตอร์เทคนิคของซีไอเอ ยอมรับเป็นผู้แฉรัฐบาลสหรัฐฯ ในการดักฟังและเก็บข้อมูลของปชช. ผ่านทางโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ต เผยรับไม่ได้กับการละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐาน...
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 10 มิ.ย. ว่า อดีตเจ้าหน้าที่สัญญาจ้างฝ่ายคอมพิวเตอร์เทคนิคของซีไอเอ ออกมายอมรับว่าเป็นผู้เปิดเผยข้อมูลลับสุดยอดของรัฐบาลสหรัฐฯ ในการ “สืบค้น” ข้อมูลทางโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ต ของหน่วยสืบราชการลับ ที่สร้างความสั่นสะเทือนไปทั่วโลก กรณีล่วงละเมิดเสรีภาพและสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนในชาติ
เจ้าหน้าที่คนดังกล่าว คือนายเอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน วัย 29 ปี ขณะนี้เดินทางไปพำนักอยู่ที่เกาะฮ่องกงแล้ว ตั้งแต่วันที่ 20 พ.ค. ที่ผ่านมา และตัดสินใจเปิดห้องพักในโรงแรมเพื่อให้สัมภาษณ์แก่ผู้สื่อข่าวว่า เขาขบคิดมาเป็นเวลานาน ก่อนที่จะเปิดโปงรายละเอียดของกระบวนการเก็บข้อมูลทางโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตของสภาความมั่นคงแห่งชาติ (เอ็นเอสเอ) เนื่องจากรู้สึกว่าประเทศของเขาสร้างเครื่องมือที่ไม่อาจรับได้ ในการจารกรรมข้อมูลของอเมริกันชนทุกคน 

2.ได้แพร่กระจายมัลแวร์เข้าสู่เครือข่ายคอมพิวเตอร์กว่า 50,000 เครือข่าย

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานเมื่อวันที่ 25 พ.ย. ว่า จากรายงานของหนังสือพิมพ์ 'เอ็นอาร์ซี' ของประเทศเนเธอร์แลนด์ สำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ (เอ็นเอสเอ) ของสหรัฐฯได้แพร่ไวรัสคอมพิวเตอร์ชนิด มัลแวร์ เข้าไปในเครือข่ายคอมพิวเตอร์กว่า 50,000 เครือข่ายทั่วโลก เพื่อใช้ในการจารกรรมข้อมูลละเอียดอ่อน

เอ็นอาร์ซี รายงานโดยอ้างเอกสารลับและแผ่นสไลด์นำเสนอของเอ็นเอสเอ ซุ่งรั่วไหลออกมาด้วยฝีมือของ เอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน อดีตลูกจ้างของเอ็นเอสเอง โดยสไลด์ดังกล่าวเป็นสไลด์นำเสนอในปี 2012 อธิบายวิธีการรวบรวมข้อมุลข่าวกรองจากทั่วโลกของเอ็นเอสเอ และพบด้วยว่า เอ็นเอสเอ ได้แพร่กระจายมัลแวร์เข้าสู่เครือข่ายคอมพิวเตอร์กว่า 50,000 เครือข่าย เชื้อว่าเป็นฝีมือของ เอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน

3.เปิดโปงแผนสร้างคอมของเอ็นเอสเอ ซึ่งสามารถทำลายระบบป้องกันคอมพิวเตอร์แทบทุกประเภทในโลก
หนังสือพิมพ์ “วอชิงตันโพสต์” ของสหรัฐฯ อ้างข้อมูลจาก นายเอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานความมั่นคงสหรัฐฯ (เอ็นเอสเอ) เปิดโปงแผนสร้างคอมพิวเตอร์ควอนตัมของเอ็นเอสเอ ซึ่งสามารถทำลายระบบป้องกันข้อมูลคอมพิวเตอร์แทบทุกประเภทในโลก รวมถึงข้อมูลที่เข้ารหัสเอาไว้  ทั้งข้อมูลธนาคาร  สาธารณสุข ธุรกิจ อีเมล์ และข้อมูลรัฐบาลต่างๆ แต่ผู้เชี่ยวชาญคาดว่าการสร้างคอมพิวเตอร์ควอนตัมยังไม่บรรลุผล เพราะเป็นไปไม่ได้ที่เอ็นเอสเอจะสร้างคอมพิวเตอร์ควอนตัมโดยหลุดรอดจากสายตานักวิทยาศาสตร์ทั่วโลก  ขณะที่ทางเอ็นเอสเองดแสดงความเห็น ส่วนหนังสือพิมพ์ “นิวยอร์กไทม์” และ “เดอะ การ์เดียน” สื่อดังของสหรัฐฯ และอังกฤษ เรียกร้องรัฐบาลสหรัฐฯ ผ่อนผันโทษนายเอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน เมื่อ 3 ม.ค. โดยระบุว่าความกล้าหาญในการเปิดโปงโครงการสอดแนมของเอ็นเอสเอและการต่อสู้เพื่อสิทธิส่วนบุคคลของนายสโนว์เดน ควรได้รับการชื่นชมมากกว่าถูกลงโทษ .
4.แฉแผนเด็ด ! รัสเซียส่ง สายลับสาว'เซ็กซ์บอมบ์' เข้าหา 'สโนว์เดน'
แหล่งข่าวเผยหน่วยข่าวกรองรัสเซีย ส่ง แอนนา แชปแมน สายลับ‘เซ็กซ์​ บอมบ์’เข้าหา เอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน ‘จอมแฉ’ ชาวอเมริกัน หวังใช้ความสวยเซ็กซี่เย้ายวนเพื่อล้วงความลับของสหรัฐฯมากขึ้น 
สื่อต่างแดน รายงานอ้างการเปิดเผยของแหล่งข่าวอดีตสายลับเคจีบีในรัสเซีย ว่า ขณะนี้ หน่วยสืบราชการลับของรัสเซีย FSB  หรือชื่อเดิม เคจีบี ที่โด่งดัง กำลังมีแผนให้ แอนนา แชปแมน สายลับสาวคนดังของเคจีบี ใช้ความสวยเซ็กซี่ของเธอ เย้ายวนนาย เอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน หนุ่มอเมริกัน เพื่อหวังล้วงความลับ‘ลึกๆ’ของสหรัฐฯมากขึ้น หลังจาก สโนว์เดนเคยสร้างความเกรียวกราวกระหึ่มโลก เป็นผู้ออกมาเปิดโปงโครงการสอดแนมลับของสหรัฐฯ จนต้องหลบหนีออกนอกประเทศและขณะนี้ ได้ขอลี้ภัยอยู่ในรัสเซียต่อไปอีก 3 ปี 
นายบอริส คาร์พิชคอฟ อดีตสายลับเคจีบี เปิดเผยว่า แอนนา แชปแมน สายลับสาวเคจีบี   ได้รับคำสั่งจากนายวลาดิเมียร์ สโคริก หัวหน้าหน่วยสายลับเคจีบีของเธอให้ ‘หว่านเสน่ห์’ มัดใจสโนว์เดน รวมถึงขั้น วางแผนให้ทั้งคู่แต่งงานกันเลยทีเดียว เพื่อที่จะทำให้สโนว์เดน หนุ่มอเมริกันวัย 31 ปี สามารถพำนักอยู่ในรัสเซียได้โดยไม่ต้องคอยขอต่ออนุญาต

แอนนา แชปแมน โพสต์ภาพเซ็กซี่ของเธอลงในเฟซบุ๊ก

‘ถ้าสโนว์เดนยอมรับแต่งงาน จะทำให้เขาได้รับสิทธิเป็นพลเมืองรัสเซีย’ อดีตสายลับเคจีบี เปิดเผย พร้อมบอกว่า รัสเซียต้องการ‘ล็อก’สโนว์เดนให้อยู่ในรัสเซีย โดยระบุว่า สโนว์เดน และแชปแมนเคยพบกันครั้งหนึ่งแล้ว แต่สโนว์เดนมีความกังวลเกี่ยวกับผลที่จะเกิดตามมาหลังจากเขารู้จักกับแชปแมน


ทั้งนี้ แอนนา แชปแมน สายลับสาวเคจีบีสุดเซ็กซี่ ชาวรัสเซีย วัย 32 ปี เคยตกเป็นข่าวเกรียวกราว ถูกทางการสหรัฐฯ จับกุมในข้อหาเป็นสายลับ พร้อมกับคนอื่นๆ รวม 10 คน และได้เนรเทศเธอกลับรัสเซียตามข้อตกลงแลกเปลี่ยนสายลับของสหรัฐฯ เมื่อปี 2553.
5.แฉ‘มนุษย์ต่างดาว’ หรือเอเลี่ยน กำลังพยายามติดต่อกับโลกของเราอยู่ในตอนนี้
เอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน จอมแฉชาวอเมริกันชื่อดัง เผยเรื่อง ช็อกโลกอีก บอก ‘มนุษย์ต่างดาว’ หรือเอเลี่ยน กำลังพยายามติดต่อกับโลกของเราอยู่ในตอนนี้ ชี้สัญญาณข้อมูลต่างๆ บนโลก ทั้งคลื่นเสียง โทรทัศน์ โทรศัพท์ สามารถถูกแปรให้เป็นรหัสได้โดยปริยาย
เมื่อวันที่ 21 ก.ย.58 สื่อต่างประเทศรายงานเรื่องฮือฮาอีกแล้ว เมื่อนายเอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน อดีตนักวิเคราะห์ข่าวกรองชาวอเมริกัน วัย 31 ปี ซึ่งได้ออกมาแฉสะท้านโลกเมื่อปี 2556 เปิดโปงโครงการเครือข่ายสอดแนมของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ​ (เอ็นเอสเอ) ที่ได้แอบล้วงข้อมูลส่วนตัวของชาวโลก จนทำให้เขาอยู่สหรัฐฯ ต่อไม่ได้ ต้องลี้ภัยไปอยู่ในรัสเซียนั้น ได้ออกมาเปิดเผยเรื่องที่ผู้คนต้องตะลึงกันอีกแล้วว่า มนุษย์ต่างดาวนอกโลก หรือเอเลี่ยน กำลังพยายามจะติดต่อกับโลกมนุษย์อยู่ในขณะนี้
เอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน อดีตพนักงานสัญญาจ้างของเอ็นเอสเอ อ้างถึงเรื่องเหลือเชื่อนี้กับ นายนีล ดีกราส นักวิทยาศาสตร์ ผ่านการบันทึกโปรแกรมรายการวิทยุในรูปแบบดิจิตอล หรือพอสแคสต์ ในรายการสตาร์ทอล์ก เมื่อวันศุกร์ที่ 18 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยมีช่วงหนึ่ง เอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน บอกว่า ถ้าอารยธรรมเอเลี่ยนกำลังพยายามฟังอารยธรรมของโลกอื่นๆ อยู่ หรืออารยธรรมของคุณกำลังพยายามฟังเอเลี่ยนอยู่เช่นกัน มีช่วงเวลาสั้นๆเท่านั้น ในการพัฒนาสังคมของเขาทั้งหลาย ในเมื่อการสื่อสารทั้งหมดจะถูกส่งผ่านในรูปแบบดั้งเดิมและไม่มีการป้องกันเป็นส่วนใหญ่
‘ดังนั้น เมื่อเราคิดถึงเกี่ยวกับทุกสิ่งทุกอย่างที่เราได้ยินผ่านดาวเทียมของเรา หรือทุกอย่างที่ได้ยินจากอารยธรรมของเรา (ซึ่งถ้ามีเอเลี่ยนอยู่ที่นั่นจริงๆ) สัญญาณต่างๆ ของข้อมูลทั้งหมดเหล่านั้นจะถูกเปลี่ยนข้อความเป็นรหัสไปโดยปริยาย ไม่ว่าจะเป็นคลื่นเสียง สัญญาณโทรทัศน์ หรือโทรศัพท์’ สโนว์เดน กล่าว พร้อมกับบอกว่า ดังนั้น การที่พวกเรากำลังได้ยินอะไรอยู่, ดูรายการทีวี หรือมีโทรศัพท์เข้ามา เรื่องเหล่านี้ไม่สามารถจำแนกหรือแยกพวกเราออกจากแสงที่มองไม่เห็นด้วยตา ที่มีชื่อว่า คลื่นคอสมิค ไมโครเวฟ แบล็กกราวน์ เรดิเอชั่น ( Cosmic Microwave Background radiation) ได้เลย
แหล่งที่มา 


วันจันทร์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2558

Hackerที่มีชื่อเสียงในโลก 20 คน

....................................................>>>> Hacker คืออะไร <<<<...................................................
Hacker ก็คือ ผู้ที่มีความรู้ความเข้าใจในระบบคอมพิวเตอร์อย่างสูงมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเครือข่าย , ระบบปฏิบัติการ หรือ เรื่องของทางจิตวิทยาเองก็ตาม พวกเขามีความรู้ทางด้านนี้สูงมากซะจน สามารถเข้าใจว่า มันมีช่องโหว่ตรงไหน หรือสามารถไปค้นหาช่องโหว่ได้จากตรงไหนบ้าง เมื่อก่อนภาพลักษณ์ของ Hacker จะเป็นพวกชั่วร้าย ชอบขโมยข้อมูล หรือ ทำลายให้เสียหาย แต่เดี๋ยวนี้ คำว่า Hacker หมายถึง Security Professional ที่คอยใช้ความสามารถช่วยตรวจตราระบบ และแจ้งเจ้าของระบบว่ามีช่องโหว่ตรงไหนบ้าง พูดง่ายๆว่า มีจริยธรรมในความเป็น Hacker นั่นเอง ในต่างประเทศมีวิชาที่สอนถึงการเป็น Ethical Hacker (แฮกเกอร์แบบมีจริยธรรม) กันเลยทีเดียว ซึ่งแฮกเกอร์แบบนี้เรียกอีกอย่างว่า White-Hat Hacker ก็ได้ เปรียบเสมือน ฝ่าย เจได ใน Star War ครับ แล้วพวกที่นิสัยไม่ดีล่ะจะเรียกว่าอะไร พวกนี้เรียกว่า Cracker สรุปง่ายๆก็คือ มีความสามารถเหมือน Hacker ทุกประการ แต่ขาดเรื่องจริยธรรมไปอย่างเดียว คนพวกนี้ มีความสามารถสูงแต่ความรู้สึกอยากเอาชนะก็สูงไปด้วย จึงชอบที่จะทำชื่อเสียโด่งดังด้วยการไป Hack โน่นนี่ แล้วสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านทั้งแบบรู้ตัว และ ไม่รู้ตัว เปรียบได้กับพวก Sith (ฝ่ายมืด) ในเรื่อง Star War แหละครับ แต่ก็ต้องขอนับถือบรรหา Black-Hat ทั้งหลายที่เก่งฉกาจ คิดค้นวิธี Hack มหาพระกาฬออกมาทำให้วงการ Security ต้องตื่นตัวมากๆตามไปด้วย แต่ก็ยังมีอีกพวกนึงที่ก่อความน่ารำคาญได้มาก นั่นก็คือพวก Script-Kiddies ครับScript-Kiddied แปลตรงๆตัวก็คือ พวกนี้โชคดีได้ ดาบ Light-Saber มาในมือ ก็เลยเอาไปหาเรื่องชาวบ้าน เปรียบเสมือนโจรมุมตึก ที่มีของนิดหน่อยก็นึกว่าตัวเองเจ๋ง แต่ที่จริงเป็นแค่หนอนแมลงชั้นต่ำของวงการที่ทำให้วงการ Hacker ชื่อเสีย อยู่ทุกวันนี้ คนพวกนี้จะมีความรู้แค่หางอึ่ง แต่ไปโหลดโปรแกรมที่พวก Hacker เค้าใช้งานกันมาใช้เองบ้าง ซึ่งในวงการ Hacker มีพวกนี้อยู่กว่า 95% เลยทีเดียว เปรียบได้กับพวกตัวประกอบเกรดบีใน Star War ที่โดนเลเซอร์ยิงทีเดียวก็ตาย ตำนาน  Hacker ระดับโลกวงการคอมพิวเตอร์อยู่คู่โลกนี้มาประมาณ 50 กว่าปีแล้ว มาลองดูกันว่า Hacker ระดับโลกเค้าเป็นใครและเดี๋ยวนี้เค้าเป็นยังไงกันบ้าง

1.Robert Tappan Morris

สิ่งที่น่าสนใจ-ชื่อในวงการของเขาคือ rtm และเป็นลูกชายของหัวหน้านักวิทยาศาสตร์ใน National Computer Security Center NSA(National Security Agency–ดิฉันมักจะแอบบเรียกชื่อเล่นของหน่วยงานนี่ว่า No Such Agency อยู่บ่อยๆตามหนังสือของ Dan Brown อิอิอิ) ว่ากันว่า เครื่องมือที่เค้าใช้สมัยเป็นวัยรุ่นก็คือ แอคเคาทน์ SuperUser ของ Belle Lab
ผลงานเด่น-เขาเป็นที่รู้จักในฐานะผู้ที่สร้าง worm ขึ้นมาเป็นคนแรกของโลก สาเหตุทำขึ้นมาก็ไม่มีอะไรมาก ย้อนกลับไปในช่วงปี 1988 มอริสที่กำลังศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัย Cornell อยู่มาวันหนึ่ง เค้าเกิดอยากรู้ขึ้นมาว่า ระบบอินเตอร์เน็ตมีขนาดกว้างใหญ่แค่ไหนก็เลยสร้างเจ้า worm ขึ้นมา(ปัจจุบันมันถูกเรียกว่า MorrisWorm)แล้วปล่อยออกไปในระบบเพื่อศึกษาขนาดของระบบ แต่ปรากฎว่าเจ้า worm นี่เกิด replicate ตัวเองขึ้นมาอย่างรวดเร็วทำให้ระบบต่างๆในเครื่องคอมพิวเตอร์กว่า 6,000 เครื่องทั่วโลกเจ๊งไปซะงั้น
ปัจจุบัน-หลังจากได้รับการลงโทษไปแล้ว เค้าก็เรียนจนได้ Ph.D จาก Harvard และตอนนี้เป็นอาจารย์สอนอยู่ที่ MIT
2.Kevin Mitnick

สิ่งที่น่าสนใจ-ชื่อในวงการคือ Condor เริ่มงานมาตั้งแต่อายุ10 ขวบ โดยการ crack เว็บไซต์ North American Aerospace Defence Command พออายุ 12ก็จาะระบบ Punch Card ของ Los Angeles BusSystem ทำให้เขาสามารถขึ้นรถเมล์ได้ฟรี และเจาะเข้าไปในระบบโทรศัพท์ด้วย
ผลงานเด่น-เขาเริ่มเป็นที่ต้องการตัวของทางการเมื่อริอ่านเจาะเข้าไปในระบบของ Digital Equibment Corperation เพื่อขโมย software และมีเป้าหมายที่จะเจาะเข้าไปในระบบของบริษัทเคลื่อนที่ยักษ์ใหญ่ อย่าง Nokia และ Motorolla
สาเหตุที่ถูกจับ– hack เข้าไปในเครื่องของ Tsutomu Shiomura ทำให้ Shiomura เข้าร่วมมือกับ FBI ในการตามจับตัวเค้าจนทำให้ Shiomura กลายเป็นอีกหนึ่งตำนาน White hat ในฝั่งเอเชีย
ปัจจุบัน-เขียนหนังสือเกี่ยวกับ hacker และเป็นที่ปรึกษาในด้านระบบควมปลอดภัยด้านคอมพิวเตอร์ให้กับบริษัทต่างๆ
3.Adrian Lamo

สิ่งที่น่าสนใจ-เป็นที่รู้จักกันในชื่อ ‘The homeless hacker’ เพราะว่าเค้ามักจะอาศัยอยู่ในตึกร้างที่ไม่มีใครสนใจ และมักจะแฮ็กระบบผ่านทาง laptop,อินเตอร์เน็ต คาเฟ่ และตามเครื่องคอมตามห้องสมุุดสาธารณะ
ผลงานเด่น-เจาะเข้าไปในระบบของ หนังสือ พิมพ์ The New York Times  และเอาชื่อตัวเองเข้าไปใส่ไว้ในแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ระดับสูงของหนังสือ พิมพ์ The New York Timesและใช้บัญชีของนักเขียนชื่อดัง LexisNexisในการค้นคว้างานวิจัยจากฐานข้อมูลของ The New York Times อีกด้วย นอกจากนี้ก็ยังมี Microsoft ,Yahoo , Bank of America และ CitiGroup
ปัจจุบัน-ทำงานเป็นนักข่าวและนักพูด เกี่ยวกับวงการ Hackerและพึ่งจะได้รับรางวัลนักข่าวยอดเยี่ยมมาไม่นานนี้เอง
4.Gary McKinnon -ชื่อในวงการ คือ Solo

ผลงาน-แฮ็กเข้าไปในระบบของ US Government ทั้ง U.S. Department of Defense,กลาโหม,นาวิกโยธิน และ นาซ่า เพื่อที่จะหาหลักฐานเกี่ยวกับ ประสิทธิภาพที่แท้จริงของเชื้อเพลิงในยานมนุษย์ต่างดาว!!!!
สิ่งที่น่าสนใจ-แม็คคินนอนเชื่อว่าสหรัฐอเมริกาได้ซ่อนความลับเกี่ยวกับเทคโนโลยีของมนุษย์ต่างดาวไว้ ซึ่งเทคโนโลยีนั้นสามารถช่วยแก้ปัญหาวิกฤตพลังงานของโลกได้ .เขาบอกว่าได้ทะลุทะลวงไปจนพบโครงการที่นำ เทคโนโลยีจากมนุษย์ต่างดาวมาใช้จริง อีกทั้งเขายังพบข้อมูลนักวิทยาศาสตร์รายหนึ่งของนาซาที่รายงานว่าศูนย์อวกาศ จอห์นสัน มีอุปกรณ์บันทึกภาพถ่ายดาวเทียมความละเอียดสูง เอาไว้คอยจับภาพยูเอฟโอหลังจากพบร่องรอยบนท้องฟ้า ซึ่งแม็คคินนอนก็จัดการล้วงข้อมูลเป็นที่เรียบร้อย แม็คคินนอนอ้างว่า สิ่งที่เค้าเห็นน่าจะเป็นดาวเทียมหรือไม่ก็ยาน อวกาศ แต่ลักษณะแบบนั้นไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนมันเหมือนกับชิ้นเหล็กท่อนใหญ่ที่ ไม่มีตำหนิใดๆ เลย และน่าจะอยู่ใต้ผืนโลก อีกทั้งไม่มีรอยต่อของวัตถุหรือหมุดยึดตัววัตถุแต่อย่างใด
นอกจากนี้เค้ายังได้พูดอีกว่า  การแฮกกิงของเขานั้นทำไปตามหลัก มนุษยธรรม เพื่อต้องการหาหลักฐานเกี่ยวกับยูเอฟโอที่ถูกปกปิดไว้  และนำมาเผยแพร่สู่สาธารณชน
5.Raphael Gray -ชื่อในวงการ Curador

ผลงาน-เจาะเข้าไปใน เว็บไซต์ e-commerce ต่างๆแล้วขโมยข้อมูลหมายเลขบัตรเครดิตของลูกค้ามากว่า 26,000 หมายเลข แล้วโพสต์ขึ้นบนเว็บเพจของตนเอง
สิ่งที่น่าสนใจ-เกรย์เรียกตัวเองว่า The saint(of e-commerce) เขาอ้างว่าการที่แฮ็กเข้าไปในเว็บไซต์เหล่นั้นก็เพื่อที่จะให้การช่วยเหลือเว็บต่างๆเหล่านั้น(ช่วยยังไงมิทราบยะ)  และนอกจากนี้หนึ่งในหมายเลขบัตรเครดิตที่เขาขโมยมาก็เป็นของคนดังในโลกของไอที ที่มีชื่อว่า บิล เกตต์ และเกรย์ก็ได้จัดการส่งยาเม็ดไวอากร้า(!?!) ไปยังที่อยู่ของบิล เกตต์และนำมาโพสต์ลงบนเว็บไซต์อีกต่างหาก (แสบจริงๆ)
6.John Draper–มีนามแฝงว่า Cap’n Crunch

ผลงาน-ในช่วง ทศวรรษ 1970 เขาได้ชื่อว่าเป็นราชาแห่งการ crack โทรศัพท์(phone phreaking) เพราะในขณะนั้น ยังเป็นยุคที่ยังไม่มีอินเตอร์เน็ตและ PC ระบบที่ถือว่าใหญ่ที่สุดก็คือระบบโทรศัพท์และ Draper ก็ถือว่าเป็นเทพในด้านนี้
สิ่งที่น่าสนใจ-อุปกรณ์ที่ใช้ในการ crack โทรศัพท์ของDraper คือ หลอดพลาสติกที่อยู่ในกล่องซีเรียล(!?!)–ซึ่งก็คือข้าวโพดเกล็ดที่เรากินกับนมนี่ล่ะ จากยี่ห้อ Cap’n Crunch cereal พลาสติกอันที่เค้าใช้เรียกว่า whistle หรือเครื่องเป่า ซึ่งจะทำให้เกิดคลื่นเสียงขนาด 2600 Hz ร่วมกับใช้ Bluebox ทำให้เค้าสามารถโทรศัพท์ได้ฟรี (ช่างคิดจริงๆ)
แถมๆ หน้าตาของซีเรียลยี่ห้อ Cap’n Crunch ฮ่าๆๆ อยากโพสต์ให้ดูเพราะดิฉันว่ากล่องมันน่ารักดีอ่ะ ^_^7.Kevin Poulsen –ชื่อในวงการคือ  Dark Dante

ผลงาน-บุกรุกเข้าเว็บไซต์แทบทุกประเภท ที่เด่นๆก็คือ เจาะระบบฐานข้อมูลและระบบดักฟังของของ FBI
สิ่งที่น่าสนใจ-เค้าเคยใช้ความสามารถพิเศษในการควบคุมระบบโทรศัพท์ของ Pacific Bellได้ เจาะเข้าไปในระบบโทรศัพท์ของสถานีวิทยุ KIIS-FM ใน LA ทำให้เค้าชนะการเล่นเกมส์และได้รางวัลมาเป็นรถ Porche!!! เอามาขับเล่นสบายใจพี่เค้าไป
ปัจจุบัน-เป็น นักข่าวอาวุโสของสำนักข่าว Wired Newsและคอยช่วยเหลือในการไล่จับพวก BlackHat คนอื่นๆ
8.Dmitri Galushkevich
ผลงาน-เป็นhacker ชาวรัสเซียที่อาศัยอยู่ในเอสโทเนีย เค้ารู้สึกผิดหวังจากการที่อนุสาวรีย์บรอนซ์ของทหารรัสเซียที่เสียชีวิตในเอสโทเนียในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองถูกย้ายที่ เลยทำhack เข้าไปโจมตีระบบของ รัฐบาล,พรรคการเมืองต่างๆ,หนังสือพิมพ์ และสถาบันเศรษฐกิจ ทำให้ทั้งประเทศตกอยู่ในสภาพ “internet gridlock”–คือทั้ง ATM,เว็บไซต์ และระบบคอมพิวเตอร์ของรัฐบาลอยู่ในสภาพที่ใช้การไม่ได้ แถมบางเว็บก็รีไดเร็คไปยังภาพของทหารโซเวียต และอ้างอิงถึง Martin Luther King เกี่ยวกับการ “ต่อต้านสิ่งชั่วร้าย”อีกต่างหาก
9.Jonathan James -ชื่อในวงการ คือ c0mrade

ผลงาน-เจาะระบบมากมาย ตั้งแต่บริษัทโทรศัพท์ BellSouthไปจนถึงหน่วยงาน DTRA ในกระทรวงกลาโหมสหรัฐ และที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในปี 1999 เขาได้ Hack เข้าไปฝังตัว Backdoor ใน Nasaซึ่งทำให้อ่านข้อมูลลับได้มากมายรวมไปถึงขโมยโปรแกรมที่ทาง Nasaพัฒนาขึ้นด้วยเงินมหาศาลถึง 1.7 ล้านดอลล่าร์สหรัฐไปอีกด้วยซึ่งในภายหลังทาง Nasa ต้องปิดระบบถึงสามสัปดาห์เพื่อแก้ไขทำให้สูญเสียเงินไปอีก 41,000 ดอลล่าร์สหรัฐ
สิ่งที่น่าสนใจ-ตอนที่โดนจับ James มีอายุเพียง 15 ปี(!?!) และเค้าได้ให้การกับศาลว่าแค่อยากได้โปรแกรมมาเพื่อฝึกฝีมือภาษา C ของตัวเองเท่านั้นแต่พอขโมยมาได้ ก็กลับถามว่าโปรแกรมห่วยๆนั่นมีค่าถึง 1.7ล้านดอลล่าร์เลยเหรอ(ช่างกล้า)
10.The Deceptive Duo -หรือคู่หูจอมหลอกลวง ประกอบไปด้วยสมาชิก 2 คนคือ Benjamin Stark อายุ 20 c]t Robert Lyttle อายุ 18 ปี

ผลงาน-เจาะระบบของรัฐบาลสหรัฐอเมริกา ซึ่งรวมถึง นาวิกโยธิน,นาซา,FAA(ทบวงการบินพลเรือน)และ กระทรวงกลาโหม โดยพวกเค้าให้เหตุผลว่าที่ทำไปก็เพื่อเปิดเผยความล้มเหลวของระบบรักษาความปลอดภัย และต้องการปกป้องประเทศจากสงครามภายหลังเหตุการณ์ 911
นี่คือ 10  Hacker ระดับโลกที่ใช้ความรู้ของตนเองในการก่อความเสียหายให้กับระบบคอมพิวเตอร์ (แม้ว่าบางทีอาจจะเกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ?) แต่ก็ยังมี hacker อีกประเภทนึงที่ใช้ความรู้ในทางที่เป็นประโยชน์ ที่เราเรียกหันว่า พวก White hat ดังตัวอย่างต่อไปนี้
11.Tsutomu Shimomura ชาวญี่ปุ่น

ผลงาน-ร่วมมือกับ John Markoffในการช่วยเหลือ FBI ไล่จับสุดยอดแฮกเกอร์ของโลก นั่นก็คือ Kevin Mitnick
สิ่งที่น่าสนใจ-เขาเป็นลูกชายของ Osamu Shimomura นักวิทยาศาสตร์ที่ได้รับรางวัลโนเบล สาขาเคมี(ปี 2008) นอกจากนี้เค้ายังได้เขียนหนังสือเรื่อง TakeDown เป็นเรื่องราวของการไล่จับ KevinMitnick ซึ่งต่อมาได้ถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์เรื่อง TakeDown ด้วย
12.Stephen Wozniak


สิ่งที่น่าสนใจ-เค้าคือผู้ที่ร่วมก่อตั้ง Apple Computer
ผลงาน-หลังจากที่ Wozniak อ่านบทความเรื่องการเจาะระบบโทรศัพท์ ในหนังสือ Esquire (ใช่ Esquire ที่เป็นหนังสือแฟชั่นของผู้ชายรึป่าว!?) เข้าหลังจากที่คุยกับ Steve Jobs พวกเขาก็ได้คิดค้น BlueBoxเครื่องเจาะระบบโทรศัพท์ที่ทำให้สามารถ โทรทางไกลได้ฟรีๆ เท่านั้นยังไม่พอ มีครั้งหนึ่ง Steve Wozniak ได้แอบใช้เครื่อง BlueBox โทรหาพระสันตปาปาโดยปลอมตัวว่าเป็น Henry Kissingerรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐในตอนนั้นอีกด้วย (ช่างกล้า)
13.Tim Berners-Lee


สิ่งที่น่าสนใจ-เค้าคนนี้คือผู้ที่ คิดค้น www ขึ้นมา Leeเป็นลูกของสองนักคณิตศาสตร์ระดับโลก Convey และ Mary Berners-Leeซึ่งเป็นทีมสร้างเครื่องคอมพิวเตอร์ Manchester Mark 1เครื่องคอมพิวเตอร์รุ่นแรกๆของโลก     ในปี 2532 Tim Berners-Lee ทำงานเป็นFreeLance อยู่ที่ CERN (ศูนย์วิจัยเรื่องนิวเคลียร์ของยุโรป)ซึ่งเป็นเครือข่ายอินเทอร์เน็ตที่ใหญ่ ที่สุดของยุโรปเขาได้คิดค้นระบบข้อความหลายมิติ (Hypertext) ขึ้นมา ซึ่งเมื่อนำมาผนวกเข้ากับ TCP และ DNS แล้ว มันจึงกลายมาเป็นเครือข่าย www ในปัจจุบัน (เจ๋งจริงๆ)
ปล.เว็บไซต์แรกของโลกคือ Welcome to info.cern.ch สร้างขึ้นโดย Tim Berners-Lee คนนี้นี่เอง
ผลงานทางด้าน hacker-เค้าเคยถูกจับได้ว่า hack รหัสผ่าน(acess code)เมื่อตอนเรียนอยู่ Oxford จึงทำให้ถูกไล่ออกจากมหาวิทยาลัย(ซะอย่างนั้น)
14.Richard Stallman


ผลงาน-ตอนที่ทำ งานอยู่ที่ MIT ในฐานะของ StaffComputer ทุกครั้งที่มีระบบอะไรใหม่ๆติดตั้งเข้าไปและมีรหัสผ่านกำกับอยู่ Stallman จะหาทางแฮกและปลดรหัสผ่านออกทุกครั้ง เสร็จแล้วก็ hack Printerต่อเพื่อพิมพ์ข้อความบอกคนอื่นๆว่าระบบไหนอยู่ที่ไหนปลดรหัสผ่านอะไรไปแล้วบ้าง
สิ่งที่น่าสนใจ-ผู้ริเริ่มโครงการ GNU  และมูลนิธิซอฟท์แวร์เสรีรวมไปถึงผู้ริเริ่มแนวคิดเรื่อง Copyleft และเป็นผู้ร่างสัญญาอนุญาตให้ใช้ได้ทั่วไป และต่อในภายหลังสัญญานี้ได้กลายเป็น บรรทัดฐานซอฟท์แวร์เสรีจำนวนมาก 

15.Justin Tanner Peterson

สิ่งที่น่าสนใจรู้จักกันในนาม Agent Steal, Peterson อาจเป็นผู้ที่มีชื่อเสียงอย่างมาก ในเรื่องการ crack บัตรเครดิต ดูเหมือน Peterson จะถูกชักจูงด้วยเงินแทนที่จะเป็นความอยากรู้อยากเห็น เพราะการขาดคุณธรรมประจำใจของเขาเองที่นำหายนะมาสู่เขาและผู้อื่น อย่างเช่น ครั้งหนึ่ง เมื่อเขาโดนจับ เขากลับทิ้งเพื่อนของเขา รวมทั้ง Kevin Poulsen เพื่อเจรจาต่อรองกับ FBI เพื่อที่จะเปิดโปง ทำให้เขาได้รับการปล่อยตัว ต่อมาภายหลังได้หนีไป และก่ออาชญากรรมเช่นเดิม

16.Vladimir Levin


สิ่งที่น่าสนใจ-จบการศึกษามาจาก St. Petersbrurg Tekhnologichesky University นักคณิตศาสตร์คนนี้มีประวัติไม่ค่อยดี จากการที่เข้าไปรวมกลุ่มกับ Cracker ชาวรัสเซียเพื่อทำการปล้น Citibank"s computers ได้เงินมา $10ล้าน

ถูกจับโดย- Interpol ที่ Heathrow Airport ในปี 1995 

17.Mark Abene

สิ่งที่น่าสนใจ-ที่รู้จักกันดีในนามของ Phiber Optik เขามีพรสวรรค์ในการเรียนรู้เกี่ยวกับระบบโทรศัพท์ค่อนข้างมาก มากเสียจนต้องเข้าไปอยู่ในคุกถึง 1 ปี เนื่องจากพยายามจะส่งข้อความให้เพื่อน Cracker ด้วยกัน แต่ข้อความนั้นโดนจับได้เสียก่อน เด็กคนนี้เป็นที่ชื่นชอบของเหล่าวัยรุ่นมากเนื่องจากฉลาดและบุคลิกดี นิตยสาร New York และแมนฮัตตันคลับถึงกับจัดเขาให้เป็น 1 ใน 100 ของบุคคลที่ฉลาดที่สุดในเมือง เขาเป็นคนที่ชอบรับประทานมันฝรั่งบด (mashed potatoes) จากร้าน KFC เป็นที่สุด

ถูกจับ- เข้าไปอยู่ในคุกถึง 1 ปี 

18.Johan Helsingius 


สิ่งที่น่าสนใจ-มีนามแฝงว่า Julf เขาเป็นผู้จัดการของ Anonymous Remailer ที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกเรียกว่า Penet.fi แต่ในที่สุดเขาก็ปิดกิจการลงในเดือนกันยายน ปี 1996 เนื่องจากตำรวจอ้างว่า Church of Scientology ได้รับความเสิยหายอันเกิดจากการมีคนนำความลับของพวกเขาไปเผยแพร่โดย ปกปิดตัวเองด้วยบริการของ Helsingius Remailer ที่เขาทำ ซึ่งดำเนินงานโดยคอมพิวเตอร์ 486 และ Harddisk 200Mb เพียงเท่านั้นเอง  

19.Onel De Guzman 

สิ่งที่น่าสนใจ- เป็นนักศึกษาทางด้านคอมพิวเตอร์โปรแกรมเมอร์ชาวฟิลิปปินส์ ที่ได้ดรอปเรียนในปีสุดท้ายหลังจากที่ได้ปฎิเสธไม่รับวิทยานิพนธ์ที่เขาได้แฮกมาจากอินเตอร์เน็ตมา หลังจากนั้นเขาและเพื่อนของเขาก็ได้สร้างไวรัสสุดอันตรายที่ชื่อ ILOVEYOU ที่ได้ทำการโจมตีระบบปฎิบัติการทั่วโลก ทำให้อีเมล์หลายพันล้านเสียหายไปทั้งโลก ในช่วงเวลานั้นยังไม่มีกฎหมายเอาผิด-เกี่ยวกับแฮกเกอร์ในประเทศฟิลิปปินส์ เพราะว่ายังไม่มีเหตุผลเพียงพอที่จะออกกฎหมายนี้ เขาและเพื่อนของเขาจึงไม่มีความผิดอะไร 

20.Linus Torvalds 

สิ่งที่น่าสนใจ-บิดาผู้ให้กำเนิด Linux ระบบปฏิบัติการ Unixที่คนนิยมกันมากที่สุดในโลกขณะนี้ ในปี 1991ขณะที่เขายังเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย เฮลซิงกิ เขาได้สร้าง linux kernelขึ้นจากพื้นฐานของระบบปฏิบัติการ Minix ขึ้น หลังจากนั้นเขาก็รวบรวมสมัครพรรคพวกมาช่วยกันเขียนและช่วยกันพัฒนาต่อกันทาง อินเทอร์เน็ต โดยที่เขาเป็นคนรวบรวม ตรวจสอบและแจกจ่ายงานไปยังโปรแกรมเมอร์ต่างๆทั่วโลกรวมถึงแจกจ่ายให้คนช่วย กันเอาไปใช้ฟรีๆอีกด้วยจุดที่น่าสนใจของโครงการนี้ก็คือ ทุกคนที่มาร่วมทำนั้นทุกคนยินดีช่วยโดยไม่ได้ค่าตอบแทนแต่อย่างใด และมีเงื่อนไขต่อด้วยอีกว่าเมื่องานเสร็จแล้วจะต้องเผยแพร่ตัว Source Codeแก่สาธารณะโดยไม่คิดมูลค่าเช่นเดียวกันครับ?ทุกวันนี้ Linux Torvaldsทำงานอยู่ที่บริษัท Transmeta บริษัทที่ทำหน้าที่ออกแบบ CPUและยังคงดำรงตำแหน่ง ผู้นำของบรรดาผู้ใช้งานและพัฒนา Linux ทั้งโลกครับยิ่งไปกว่านั้น หนังสือ Times Magazine ได้ยกให้เค้าเป็นหนึ่งคนในหนังสือชื่อ 60 Years of Hero สุดยอด   

แหล่งที่มา


x